เนย์มาร์ เป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของโลก ซึ่งไม่ใช่คนแรก ก่อนหน้าเขา เคยมีนักเตะชื่อดังหลายคนที่ได้ย้ายทีมด้วยค่าตัวสูงพอตัวจนทำให้เคยนั่งบัลลังก์นั้นมาก่อน ซึ่งบางคนก็เล่นได้สมค่าตัว ในขณะที่บางคนทำผลงานได้น่าผิดหวัง

ปัจจุบัน เนย์มาร์ เป็นเจ้าของสถิติค่าตัวในการย้ายทีมสูงที่สุดในโลก หลังจากเมื่อปี 2017 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยอมทุ่มเงินสูงถึง 222 ล้านยูโรเพื่อดึงเขามาจาก เจ้าบุญทุ่ม แม้ว่าหลังจากนั้นจะมีนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ที่ได้ย้ายทีมด้วยค่าตัวที่สูงเหมือนกัน แต่มันก็ยังไม่สามารถทุบสถิติของ เนย์มาร์ ได้

เดนิลสัน คือหนึ่งในคนที่เคยได้นั่งบัลลังก์นั้นมาก่อน สำหรับแฟนบอลรุ่นใหม่บางคนสงสัยว่าเขาคือใครกัน แต่สำหรับคอบอลในปี 1990 จนถึง 2000 น่าจะคุ้นหูเขาเป็นอย่างดี เพราะเมื่อปี 1998 เขาเคยสร้างความฮือฮาด้วยการย้ายจาก เซา เปาโล ไปอยู่กับ เรอัล เบติส ด้วยค่าตัวสูงถึง 21.5 ล้านปอนด์

ในสมัยนั้นค่าเงินมันต่างจากปัจจุบันเยอะ หากเปรียบเทียบเป็นค่าเงินในตอนนี้นั้นค่าตัว 21.5 ล้านปอนด์เมื่อปี 1998 ของ เดนิลสัน จะมีมูลค่าราว 40.25 ล้านปอนด์ในปี 2022 ถึงกระนั้นสมัยก่อนมันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาได้กลายเป็นนักเตะที่แพงที่สุดในโลกด้วยการทำลายสถิติเดิมของ โรนัลโด้ อดีตยอดดาวยิงชาวบราซิเลียนที่เคยย้ายจาก เจ้าบุญทุ่ม ไปอยู่กับ งูใหญ่ ด้วยค่าตัว 19.5 ล้านปอนด์ เมื่อปี 1997 แล้ว

อะไรที่ทำให้ เบติส ยอมจ่ายเงินก้อนโต เพราะช่วงนั้น เดนิลสัน โด่งดังในบราซิลจากการที่เขามักจะโชว์ลีลาการเลี้ยงบอลที่น่าประทับใจได้, วิ่งกระชากหนีคู่แข่งได้ดี รวมถึงมีลูกเล่นที่สร้างเสียงฮือฮาให้กับคนดูได้พอตัว

แต่ถึงกระนั้นอีกด้านหนึ่งหลายคนก็กังขาว่าเขาสมควรมีค่าตัวแพงขนาดนั้นจริงๆ หรือ เพราะเจ้าตัวไม่ได้มีผลงานการทำประตูที่โดดเด่นนักแม้ว่าจะช่วยพา เบติส กลับมาสู่ลีกสูงสุดได้ในปี 2001 และเป็นหนึ่งในขุนพล บราซิล ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2002

แต่ชีวิตในฐานะนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกของ เดนิลสัน มันไม่ได้สวยหรูมากนัก สุดท้ายแล้วเขาก็โดนขายไปให้ บอร์กโดซ์ ในปี 2005 ตามด้วยต้องไปเล่นกับ อัล นาสเซอร์ สโมสรในซาอุดิอาระเบีย และเจ้าตัวก็ไม่เคยมีออร่าเหมือนในอดีตอีกเลย

จนกระทั่งประกาศหยุดเล่นไปในปี 2010 โดยที่ คาวาล่า ทีมในประเทศกรีซคือทีมสุดท้ายในอาชีพการค้าแข้งของเขาในตอนนั้น โดยเขาไม่ได้ลงเล่นให้ คาวาล่า แม้แต่นัดเดียวด้วย

สุดท้ายแล้ว เดนิลสัน ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้คู่ควรกับค่าตัวระดับนั้น เบติส ในสมัยที่เขาอยู่ด้วยนั้นถึงขั้นเคยตกชั้นจาก ลา ลีกา ไปเล่นใน เซกุนด้า ดิวิชั่น ตอนจบฤดูกาล 1999-2000 ด้วยซ้ำ ขณะที่ เดนิลสัน ทำประตูได้เพียง 5 ลูกภายในช่วง 2 ฤดูกาลแรกที่อยู่กับทีม

เดนิลสันโพสต์ภาพตอนที่ตัวเองถือชุดแข่งและได้กล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า ตอนนี้ผมพูดได้สักที มันเป็นทางการแล้ว มันมีการส่งคำเชิญมาและผมก็ได้ปรึกษากับครอบครัวของตัวเอง ตอนนี้คุณพ่อได้ตัดสินใจที่จะกลับมาเล่นฟุตบอลหลังจากผ่านมา 12 ปี จากวันนี้เป็นต้นไปผมจะสวมเสื้อของ @ibismania

เดนิลสัน สร้างความแปลกใจให้กับคนในวงการฟุตบอลแดนแซมบ้า หลังจากที่ประกาศว่าตัวเองกลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพแล้ว แม้ว่าปัจจุบันจะมีอายุ 44 ปีเข้าไปแล้วก็ตาม ซึ่งทีมที่เขาเล่นให้ในครั้งนี้คือ อิบิส สปอร์ต คลับ สโมสรในลีกสูงสุดประจำรัฐแปร์นัมบูกาโน่ ประเทศบราซิล

อิบิส เองก็เป็นทีมที่เคยมีชื่อเสียงในระดับหนึ่งเหมือนกัน เพียงแต่ชื่อเสียงของพวกเขามันต่างจากกรณีของ เดนิลสัน เพราะนี่คือทีมที่เคยได้รับการขนานนามจาก กินเนสส์ บุ๊ค สื่อด้านสถิติชื่อก้องว่าเป็น ทีมที่ห่วยที่สุดของโลก

ทำไมพวกเขาถึงได้รับยศนั้นก็เพราะว่าเมื่อช่วงทศวรรษ 1980 อิบิส ไม่เคยชนะใครเลยเป็นจำนวน 32 เกมติดต่อกัน โดยถ้านับเป็นเวลาก็จะคิดเป็น 3 ปี, 11 เดือน กับอีก 26 วัน ซึ่ง อิบิส เองก็ไม่ได้ปฏิเสธฉายานั้น พวกเขาถึงขั้นเคยตั้งชื่อให้มาสค็อตของทีมว่า แดร์โรตินญ่า ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ประมาณว่า ไอ้ขี้แพ้ เลย

สำหรับ อิบิส มันไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ปีก่อนเราเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้ และปีนี้เรื่องที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นอีกครั้ง นั่นคือสิ่งที่ อิบิส โพสต์ลงบน ทวิตเตอร์ ของสโมสรหลังจากประกาศเซ็นสัญญากับ เดนิลสัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ปัจจุบัน สถานการณ์ของ อิบิส ไม่ดีเท่าไหร่นัก โดยถึงแม้นัดล่าสุดพวกเขาจะเก็บชัยชนะได้ แต่ก่อนหน้านั้น อิบิส สะกดคำว่าชนะไม่เป็นมานานถึง 8 เกมติดต่อกันจนถึงขั้นทำให้ทีมเสี่ยงที่จะตกชั้นเลย ซึ่งตอนนี้ก็ต้องรอดูกันว่าการผนึกกำลังกันของอดีตนักเตะแพงสุดในโลก กับอดีตทีมที่แย่ที่สุดของโลก มันจะไปได้สวยแค่ไหน